วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรฯ ประกาศเดินหน้าชุมนุมต่อ

แถลงการณ์ฉบับที่ 21/2551

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง ชุมนุมต่อเนื่องหลัง นายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี

ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อเวลา 15.30 น.วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ.2551 ว่า นายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 กรณีการจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ และรับผลตอบแทนในการจัดรายการชิมไปบ่นไป และรายการยกโขยง 6 โมงเช้า โดยได้รับผลตอบแทน คำนึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตนไม่ใช่เพื่อประโยชน์สาธารณะ เป็นผลให้ นายสมัคร สุนทรเวช ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยทันที

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงประชุมและแถลงจุดยืนดังต่อไปนี้

1.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ถือว่า นายสมัคร สุนทรเวช ได้สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ถือเป็นหลักฐานการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยซ้ำซาก ภายหลังจากที่ได้กระทำผิดรัฐธรรมนูญในกรณีมติคณะรัฐมนตรีในการลงนาม แถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชา เพื่อยกปราสาทพระวิหารให้กัมพูชาขี้นทะเบียนมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่มีอำนาจตามคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ.2551

การกระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของชาติ ที่ได้ผ่านประชามติของคนส่วนใหญ่ในประเทศกว่า 14 ล้าน 7 แสนคน จึงย่อมเป็นเครื่องยืนยันของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง ว่า นายสมัคร สุนทรเวช และคณะรัฐบาลหุ่นเชิด ไม่เคารพต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ และหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศไปนานแล้ว

2.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังคงธำรงความมุ่งหมายเดิมในภารกิจศักดิ์สิทธิ์ เพื่อปกป้องพิทักษ์รัฐธรรมนูญเพื่อมิให้นำมาแก้ไขใช้เป็นเครื่องมือในการฟอก ความผิดของตัวเองและพวกพ้องทั้งในการทุจริตคอร์รัปชัน และการโกงการเลือกตั้ง โค่นล้มระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด ตลอดจนสร้างการเมืองใหม่ให้เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง

บัดนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้พิพากษาให้ นายสมัคร สุนทรเวช สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงถือว่าคำพิพากษาดังกล่าว เป็นส่วนสำคัญที่พิสูจน์ความชอบธรรมในการชุมนุม เพื่อต่อต้านรัฐบาลที่กระทำผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ ดังนั้น ภารกิจศักดิ์สิทธิ์ต่อการใช้สิทธิชุมนุมตามรัฐธรรมนูญในทำเนียบรัฐบาลยังไม่ สิ้นสุด และต้องดำเนินการต่อไป

3.เพื่อคลี่คลายวิกฤตที่สุดในโลก และมิให้ประเทศชาติล่มจมต่อไป พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงขอเตือนต่อสภาผู้แทนราษฎรให้สนับสนุนคนดีให้มีอำนาจ และปกป้องมิให้คนไม่ดีมีอำนาจ อย่าได้นำเสนอชื่อบุคคลใดก็ตามที่มีประวัติด่างพร้อย กระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ตระบัดสัตย์ต่อมวลมหาชน แสดงพฤติกรรมเป็นหุ่นเชิดเพื่อช่วยเหลือ หรือปกป้องผู้กระทำความผิดต่อกฎหมายในระบอบทักษิณมาเป็นนายกรัฐมนตรีหรือ รัฐมนตรีอีกเป็นอันขาด

4.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอประณามการมีมติของพรรคพลังประชาชนที่จะสนับสนุน นายสมัคร สุนทรเวช ให้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ได้กระทำความผิดต่อรัฐธรรมนูญ ว่า เป็นกลุ่มนักการเมืองที่ไร้ซึ่งจริยธรรมและหมดความชอบธรรมในการที่จะปกครอง ประเทศต่อไป และถือว่า นักการเมืองเหล่านี้คือผู้ที่จงใจเลือกที่จะสร้างเงื่อนไขให้วิกฤตในบ้าน เมืองยังดำรงอยู่ต่อไป

นอกจากนั้น เราถือว่าบุคคลที่อยู่ในพรรคพลังประชาชนหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศต่อ ไป เพราะกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ได้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยให้ยุบ พรรคอยู่ในขณะนี้

5.พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขอสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองของผู้ที่ปรารถนาดีต่อประเทศชาติ จากทุกฝ่าย ให้เข้ามาคลี่คลายวิกฤตของชาติ ดังนี้

5.1 แสดงจุดยืนในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มิให้นำมาแก้ไขเพื่อฟอกความผิดที่กระทำสำเร็จไปแล้วให้กับตัวเองและพวกพ้อง มิให้นำมาแก้ไขเพื่อการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ของนักการเมือง มิให้นำมาแก้ไขเพื่อลดพระราชอำนาจ หรือโครงสร้างของสถาบันพระมหากษัตริย์ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระ มหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

5.2 แสดงจุดยืนเพื่อสะสางปัญหาความเลวร้ายของระบอบทักษิณและรัฐบาลหุ่นเชิดขายชาติด้วยกระบวนการยุติธรรมและความจริงใจดังนี้

5.2.1 เร่งรัดคดีทุจริตคอร์รัปชันให้เข้าสู่กระบวนการในชั้นศาล โดยปราศจากการแทรกแซงทั้งทางตรงและทางอ้อม และยึดทรัพย์สินที่โกงชาติไปกลับมาเป็นของรัฐ

5.2.2 เร่งรัดยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภรรยา

5.2.3 เร่งรัดดำเนินการเพื่อให้ส่งตัวผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดินมาดำเนินคดีในประเทศไทยโดยทันที

5.2.4 ประกาศยกเลิกแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทย-กัมพูชา ที่ยกปราสาทพระวิหาร และพื้นทีโดยรอบให้กับกัมพูชาแต่เพียงฝ่ายเดียว และรักษาอธิปไตยทั้งดินแดนและแหล่งพลังงานก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในอ่าวไทยจน ถึงที่สุด

5.2.5 เร่งรัดดำเนินคดีความและลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐและอันธพาลการเมืองของรัฐบาลที่คุกคามทำร้ายร่างกายและทรัพย์สินของผู้ชุมนุม

5.2.6 เร่งรัดดำเนินคดีความนายจักรภพ เพ็ญแข นายวีระ มุสิกพงศ์ เว็บไซต์ สื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุชุมชน และขบวนการดูหมิ่นและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ทั้งหมดโดยเร็ว

5.2.7 ยุติการใช้สื่อของรัฐในการโฆษณาชวนเชื่อ และโกหกหลอกลวงประชาชนโดยทันที และพร้อมเข้ามาปฏิรูปสื่ออย่างแท้จริง

5.2.8 ประกาศยกเลิกโครงการที่ใช้จ่ายเกินตัว และไม่โปร่งใสที่จะทำให้ชาติล่มจม เช่น โครงการเช่ารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คัน โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ฯลฯ โดยทันที

5.2.9 ยกเลิก พ.ร.บ.ทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2542 และใช้การปฏิรูปและพัฒนารัฐวิสาหกิจแทนเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนในชาติ และนำเอารัฐวิสาหกิจที่แปรรูปไปแล้วกลับคืนมาเป็นของรัฐดังเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปตท.

5.3 แสดงจุดยืนพร้อมให้ความร่วมมือในการสร้างการเมืองใหม่ เพื่อให้เป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง โดยให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ป้องกันไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจ และเพิ่มการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชนในทุกภาคส่วนให้หลากหลายเพิ่ม มากขึ้น

ด้วยจิตคารวะ

พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ.2551
ณ ทำเนียบรัฐบาล

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก แนวหน้า
เขียนโดย น.ส.พิมลกร แปงฟู ID :5131601432 สำนักวิชานิติศาสตร์

ไม่มีความคิดเห็น: