วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2551

รบ.โบลิเวียเริ่มเจรจาฝ่ายค้านหลังเหตุปะทะฝ่ายหนุน-ต้าน มีผู้เสียชีวิตนับสิบ


เอเอฟพี - รัฐบาลของประธานาธิบดี อีโว โมราเลส กลับสู่โต๊ะเจรจากับแกนนำฝ่ายค้านที่เลื่อนมายาวนานเมื่อวันอาทิตย์ (14) หลังเหตุความไม่สงบภายในประเทศซึ่งนำไปสู่การประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐกบฎแห่ง หนึ่งของโบลิเวีย

ทั้งรัฐบาลโบลิเวียและผู้บริหารรัฐกบฏต่างเรียกร้องให้เปิดเจรจา ทว่า แต่ละฝ่ายยังกล่าวโทษซึ่งกันและกันในการต่อสู้ที่เกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตทาง การเมืองอันลึกซึ้ง ซึ่งนำไปสู่การขับทูตสหรัฐฯ กลับประเทศ ขณะที่สหรัฐฯก็ขับทูตโบลิเวียเป็นการตอบโต้

โมราเลส ได้ประกาศให้ ฟิลิป โกลด์เบิร์ก เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำโบลิเบีย เป็นบุคคลที่ไม่พึงปรารถนา และสั่งขับออกจากประเทศโบลิเวียในทันที โดยกล่าวหาว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯได้ส่งเสริมให้เกิดความแตกแยกขึ้นภายในประเทศ และทำให้เกิดการแยกตัวของรัฐต่างๆ ในประเทศโบลิเวีย

นับตั้งแต่วันอังคาร (9) ความรุนแรงบนท้องถนนปะทุขึ้น เมื่อฝ่ายสนับสนุนและต่อต้านรัฐบาลปะทะกันในซีกตะวันออกของประเทศที่ยากจน ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย และบาดเจ็บเกือบ 100 คน แต่มีสื่อมวลชนบางแห่งรายงานว่ายอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นไปถึง 29 ศพ

ความรุนแรงที่ดูย่ำแย่ที่สุดเกิดขึ้นในรัฐปันโด ทางเหนือของประเทศ -- 1 ใน 5 ดินแดนที่ปฏิเสธแผนปฏิรูปสังคมของโมราเลสและเรียกร้องการปกครองตนเอง

รัฐบาลกล่าวหา ลีโอพอลโด เฟอร์นานเดซ ผู้ว่าการรัฐ ซึ่งมาจากฝ่ายค้าน ในภาระรับผิดชอบต่อเหตุ “สังหารหมู่” 16 คน --เกือบทุกคนเป็นแรงงานชนบทฝ่ายสนับสนุนโมราเลส -- ซึ่งศพถูกพบในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีประชาชน 3 ราย และทหาร 1 นาย เสียชีวิตในวันศุกร์ (12) เมื่อทหาร 100 นาย เข้ายึดสนามบินโคบิจาคืนจากผู้ประท้วง

ผู้ประท้วงได้เข้ายึดอาคารที่ทำการของรัฐ สนามบิน รวมทั้งบริษัทโทรคมนาคม ใน 4 จังหวัดทางตะวันออก คือ ซานตาครูซ, ทาริจา, เบนี และ ปันโด ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และได้พากันปิดถนนสายหลักที่เชื่อมกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อต่อต้านการเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับรายได้ของรัฐบาลโมราเลส

ความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญของ นายโมราเลส และโยกเงินรายได้จากการขายก๊าซธรรมชาติไปให้กับชนพื้นเมืองและคนยากจน รวมทั้งการจัดสรรที่ดินเสียใหม่ เพื่อต้องการปฏิรูปประเทศไปสู่ความเป็นสังคมนิยมได้ถูกต่อต้านอย่างหนักจาก ประชาชนในจังหวัดทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ร่ำรวยที่อุดมไปด้วยทรัพยากรพลังงาน และส่วนใหญ่ต้องการแบ่งแยกดินแดนเป็นอิสระ

รองประธานาธิบดี อัลวาโร การ์เซีย กล่าวในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (14) ว่า การเจรจากับตัวแทนของ 1 ใน 5 รัฐที่ต้องการแบ่งแยกดินแดนกำลังมีขึ้นในทำเนียบประธานาธิบดี

แม้ว่าคำแถลงก่อนหน้านี้ของแกนนำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลในซานตาครูซ จะระบุว่า การปิดกั้นถนนและประท้วงในรัฐจะสิ้นสุดลงเพื่อแสดงสัญญาณแห่งไมตรีจิต ทว่า โอกาสในการหาข้อตกลงคลี่คลายปัญหาดูเหมือนยังเป็นหาทางที่ยาวไกล

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ผู้จัดการ ออนไลน์
เขียนโดย น.ส.พิมลกร แปงฟู ID:5131601432 สำนักวิชานิติศาสตร์

ไม่มีความคิดเห็น: