วันเสาร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2551


พรุ่งนี้! เปิดตัวทายาทอสูร “พรรคเพื่อไทย” เชิด “ชัยสิทธิ์-ปานปรีย์” กุมบังเหียน

“เพื่อไทย” พรรคอะไหล่ “พลังประชาชน-ไทยรักไทย” ประชุมใหญ่พรุ่งนี้ (21 ก.ย.) ที่อาคารชินวัตรไหมไทย ถ.พระราม 4 เลือก กก.บริหารพรรคใหม่ “ชัยสิทธิ์ ชินวัตร-สุจริต ปัจฉิมนันท์” เต็ง ส่วนเลขาฯ อาจเป็น “ปานปรีย์” หลานน้าชาติ และ คนใกล้ชิด “หญิงอ้อ”


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 9.30น. พรุ่งนี้ (21 ก.ย.) พรรคเพื่อไทยจะจัดการประชุมใหญ่สมัยวิสามัญ ครั้งที่ 3/2551 ขึ้น ณ อาคารชินวัตรไหมไทย ย่านถนนพระราม 4 โดยมีวาระสำคัญคือ การตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และ การเลือกคณะกรรมการตามกฎหมายพรรคการเมือง ประกอบด้วย คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค คณะกรรมการและนโยบายพรรคและคณะกรรมการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยในพรรค นอกจากนี้จะมีการทบทวนเปลี่ยนแปลงนโยบายและข้อบังคับพรรคด้วย


สำหรับการประชุมของพรรคเพื่อไทย ครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่เหล่าอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และ แกนนำพรรคพลังประชาชนประกาศว่าได้ตั้ง พรรคเพื่อไทย ไว้สำรองแล้วหากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุบพรรคพลังประชาชน อันเนื่องมาจากกรณีที่เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2551 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งได้พิพากษาให้ใบแดง นายยงยุทธ ติยะไพรัช และเพิกถอนสิทธิในการเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี โดยกรณีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพรรคพลังประชาชนโดยอาจถึงขั้นยุบพรรค ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 237 เนื่องจาก นายยงยุทธ นั้นดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน


พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอะไหล่ ที่นักการเมืองในสายของนายยงยุทธ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี และ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเป็นผู้จดทะเบียนไว้ เพื่อรองรับ ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.ทั้งจากพรรคพลังประชาชนและพรรคไทยรักไทย เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยขณะนี้มีอดีตผู้สมัคร ส.ส.และสมาชิกพรรคพลังประชาชนย้ายไปสังกัดแล้วจำนวนมาก


ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับรองให้จดทะเบียนจัดตั้งพรรคเพื่อไทย โดยมีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2550 มีนายบัณจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค และนายโอฬาร กิจเลิศไพโรจน์ เป็นเลขาธิการพรรค ใช้สัญลักษณ์ชื่อย่อพรรค เป็นอักษร “พ” ขณะที่ตัวย่อของพรรคเพื่อไทยเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษนั้น คือ พท. และ PT. ตามลำดับ โดยจากข้อมูลเมื่อวันที่ 10 ก.ค. พรรคเพื่อไทย มีกรรมการบริหารพรรค 17 คน สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ เลขที่ 111/1 อาคารนวสร ถ.พระราม 3 แขวงบางคอแหลม เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120 ซึ่งเคยเป็นที่ทำการพรรคไทยรักไทยขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย


สำหรับ ในวันที่ 21 ก.ย. นี้พรรคเพื่อไทย จะคัดเลือกกรรมการบริหารพรรคคนใหม่ โดยขณะนี้มีตัวเต็งหัวหน้าพรรคด้วยกัน 2 ราย คือ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารบก ญาติผู้พี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และอีกคนหนึ่งคือ นายสุจริต ปัจฉิมนันท์ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย ขณะ เลขาธิการพรรคนั้นมีข่าวว่าอาจจะเป็น นายปานปรีย์ พหิทธานุกร


สำหรับนายปานปรีย์นั้นเป็นผู้มีความใกล้ชิดกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร โดยในสมัย รัฐบาลสมัคร ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปี 2546 เคยดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นอกจากนี้นายปานปรีย์ยังมีศักดิ์เป็นหลานเขยของ “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีอีกด้วย ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าพรรคพลังประชาชนได้ทาบทาม นายปานปรีย์ให้ลงชิงตำแหน่งผู้แหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กับนายอภิรักษ์ โกษะโยธินตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ ทว่า สุดท้ายพรรคพลังประชาชนก็ส่งนายประภัสร์ จงสงวน อดีต ผู้ว่าฯ รฟม. ลงสนามแทน




ที่มาของข่าว ผู้จัดการออนไลน์ 20 กันยายน 2551 21:37 น.


โดย นางสาวธันย์ชนก ทรงนาศึก ID:5131601345 sec.02 สำนักวิชานิติศาสตร์

อภิสิทธิ์ แนะ สมชาย ทบทวนปมขัดแย้งและเร่งหาข้อยุติ


พรรคประชาธิปัตย์ 19 ก.ย. – "อภิสิทธิ์" แนะนายกฯ ประมวลปมขัดแย้งและเร่งยุติปัญหาแตกแยกอย่างเป็นรูปธรรม ชี้ให้เห็นความแตกต่างระหว่างรัฐบาลนี้กับรัฐบาลที่แล้ว พร้อมเสนอให้ตอบโต้คำสัมภาษณ์ของ "พ.ต.ท.ทักษิณ" โดยยืนยันกระบวนการยุติธรรมของไทยไม่ได้มีปัญหา เพื่อแสดงท่าทีว่ายืนข้างประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีว่า จะสร้างความสมานฉันท์ในชาติ ว่า แนวทางหาความปรองดอง เป็นเป้าหมายที่คนไทยทุกคนอยากเห็นอยู่แล้ว หากดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังจะเป็นการเริ่มต้นที่จะช่วยคลี่คลายวิกฤติได้ แต่สิ่งที่สำคัญคือ เรื่องเนื้อหาสาระที่ต้องพูดคุยกัน โดยปมความขัดแย้งต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะต้องทบทวนดูว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่เป็นปมความขัดแย้งที่ต้องเร่งหาข้อยุติ และให้ประชาชนทุกกลุ่มได้รับทราบแนวทางและจุดยืนต่าง ๆ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีต้องเร่งสรุป เพื่อประมวลและพิสูจน์ให้เห็น โดยเฉพาะคำถามเดิมที่ว่า อะไรคือความเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างไปจากรัฐบาลเดิม หากตอบไม่ได้ เราก็ไม่เห็นคำตอบ "อยากเห็นการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนในหลายประเด็น ไม่ว่าเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือเรื่องที่เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลที่ผ่านมาว่า จะแก้ไขอย่างไร วันนี้ผมรอฟังนายกฯ อยู่ว่า จะตอบอย่างไรเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกฯทักษิณ (ชินวัตร) ที่พยายามลดความน่าเชื่อถือ ของกระบวนการยุติธรรมไทย โดยเฉพาะท่านมาจากกระทรวงยุติธรรมด้วย ต้องปกป้องประเทศไทย ปกป้องกระบวนการยุติธรรมของไทย ถ้าแสดงจุดยืนนี้จะช่วยลดความกังวลหรือความระแวงในเรื่องความสัมพันธ์ส่วนตัว แต่ถ้าไม่ทำจะเป็นปัญหาทำให้คนระแวงต่อไป อยากเห็นท่านแสดงท่าทีตอบโต้อดีตนายกฯ เพราะต้องเลือกยืนข้างประเทศไทย" นายอภิสิทธิ์ กล่าว ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นนายกรัฐมนตรีต้องชี้แจงว่า ปัญหาคดีความต่าง ๆ ของอดีตนายกรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องการเมืองที่จะแก้ด้วยการเมือง แต่เป็นการดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้ หากไม่มีปฏิกิริยาอะไรออกมา ก็เป็นเรื่องยากที่จะช่วยคลี่คลายวิกฤติความขัดแย้งในสังคมได้ และการทำงานก็มีแต่ความยากลำบาก ส่วนกรณีที่ นายสมชาย เคยให้สัมภาษณ์ว่า จะตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า บุญคุณที่ยิ่งใหญ่กว่าคือ แผ่นดินและประเทศไทย วันนี้นายสมชาย ต้องแสดงให้ชัดเกี่ยวกับคำให้สัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นบททดสอบว่า จะเลือกยืนข้างใด แต่หวังว่า นายกรัฐมนตรีของไทยต้องยืนยันว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยไม่ได้มีปัญหา และการดำเนินการทุกอย่างจะว่าไปตามข้อเท็จจริง นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่คนไทยอยากเห็นคือ คณะรัฐมนตรีที่ประชาชนยอมรับได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว จะต้องไม่มีการต่อรองและแย่งชิงผลประโยชน์ รวมทั้งต้องเร่งทำนโยบายที่เป็นรูปธรรม ทั้งการสานต่อนโยบายรัฐบาลเดิมและนโยบายที่จะเปลี่ยนแปลง
ส่วนแผนที่อยากเห็นชัดเจนเร่งด่วนขณะนี้คือ การแก้ปัญหาน้ำท่วม การช่วยเหลือเฉพาะหน้า รวมถึงแผนการฟื้นฟูและการชดเชยค่าเสียหายทันต่อเหตุการณ์ และในเรื่องผลกระทบด้านเศรษฐกิจนั้นได้ย้ำไปแล้วในแง่การบริหารความเชื่อมั่น การบริหารสภาพคล่อง การวางแผนด้านการส่งออก ซึ่งจะต้องประเมินผลกระทบจากการล้มละลายของสถาบันการเงินต่าง ๆ รวมทั้งผลกระทบที่จะมาถึงกองทุนต่าง ๆ ในประเทศด้วย ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภริยานายกรัฐมนตรี เข้ามามีบทบาทในการจัดคณะรัฐมนตรีนั้น ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า เป็นความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าใครจะมาเสนอหรือมาช่วยจัดโผอะไรก็ตาม แต่ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีที่ต้องพิสูจน์ภาวะการเป็นผู้นำ.-สำนักข่าวไทย
ที่มา: www.msn.co.th
โดย น.ส.ธัญญารัตน์ ฟูเขียว ID.5131601344 Sec. 02 นิติศาสตร์

วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2551

รุดนมัสการ'สมเด็จเกี่ยว' นายกฯรับมีปัญหายุ่งยาก [19 ก.ย. 51 - 18:43]

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ผ่านมา (19 ก.ย.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เข้านมัสการสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) หรือสมเด็จเกี่ยว ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี กล่าวกับสมเด็จเกี่ยว ว่าไม่ได้ตั้งใจและไม่คิดว่าจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่คนในพรรคพลังประชาชนเห็นว่าสามารถทำหน้าที่ได้ และ 2 คนที่เป็นตัวเก็งนายกรัฐมนตรีได้ถอนตัวออกไป ซึ่งตนจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตั้งใจทำหน้าที่ให้ดี ขณะที่การรับตำแหน่งใหม่ หลายเรื่องคิดไม่ถึงว่าจะยุ่งยาก บางครั้งจิตใจว้าวุ่น เพราะมีหลายเรื่องที่ไม่คิดว่าจะยุ่งยาก
ขณะที่สมเด็จเกี่ยว ประทานโอวาทว่า เมื่อจำเป็นต้องมาทำหน้าที่ ไม่ใช่การแสวงหา ก็ขอให้ทำงานปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เรื่องอื่นๆ ก็ปล่อยมันบ้าง เพราะเห็นตัวอย่างกันมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเข้าเฝ้าสมเด็จพระพุฒาจารย์ นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุ บนบรมบรรพต หรือภูเขาทอง ด้วย
ส่วนความคืบหน้าการย้ายที่ทำการชั่วคราวของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเจ้าหน้าที่ จากทำเนียบรัฐบาลไปใช้สนามบินดอนเมือง นายจุลยุทธ หิรัณยะวิสิต ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เร่งจัดการความเรียบร้อยในการแบ่งสัดส่วนของสถานที่และจัดเตรียมอุปกรณ์ ซึ่งจะต้องให้แล้วเสร็จทันรัฐบาลชุดใหม่เริ่มปฏิบัติงาน โดยคาดว่าจะใช้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ครั้งแรกในวันที่ 30 กันยายนนี้

โดยหน่วยงานที่จะต้องย้ายไปอยู่ที่ดอนเมืองประกอบด้วยสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่วนสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักปลัดนายกรัฐมนตรีจะมีเพียงบางส่วนที่ย้ายไปดอนเมืองเท่านั้น เพราะนอกจากจะดูเรื่องความเหมาะสมแล้วยังต้องดูความสะดวกของเจ้าหน้าที่ด้วย
ส่วนเอกสารสำคัญที่อยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการประสานงานภายในมายังแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมแล้ว โดยมีการยินยอมให้นำเอกสารสำคัญออกนอกทำเนียบได้ ทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์และเอกสารการเยียวยาเจ้าหน้าที่ซึ่งประสบภัยจากการทำหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างไรก็ตามจะหารือว่าจะมีการขอเอกสารเพิ่มเติมหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางไปตรวจความพร้อมของท่าอากาศยานดอนเมืองที่จะใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลชั่วคราว ภายในบริเวณห้องรับรองพิเศษที่ 1 ระหว่างอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 ซึ่งใช้เป็นที่ทำงานของนายกรับมนตรี และห้องรับรองที่ 2 ที่ใช้เป็นห้องรับรองพิเศษสำหรับต้อนรับแขกของนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงห้องรับรองอีก 4 ห้อง ที่จะถูกจัดสรรให้เป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี

โดยพบว่าอาคารสถานที่มีความพร้อมแล้ว จากนี้จะมีการจัดซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้ามาตกแต่ง เชื่อว่าวันอังคารที่ 23 ก.ย.นี้ จะสามารถใช้เป็นที่ประชุม ครม. รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเข้าทำงานได้ โดยจะใช้เป็นทำเนียบรัฐบาลนานแค่ไหนนั้น อยู่ที่การปรับปรุงซ่อมแซมทำเนียบรัฐบาลหลังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนย้ายออกไป



ที่มา http://www.thairath.co.th

โดย นางสาวธันย์ชนก ทรงนาศึก ID:5131601345 sec.02 สำนักวิชานิติศาสตร์

ข่าว ข่าว ข่าว ข่าว ข่าว นายกฯ ต่อสายคุย สนธิ เคลียร์ลงตัว-ตอบรับดี


วันนี้ (19 กันยายน) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) โดยยอมรับว่า ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ นายสนธิ ลิ้มทองกุล หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อหารือถึงแนวทางการปรองดองกับพันธมิตรฯ และร่วมกันแก้ไขวิกฤตการณ์ทางการเมืองขณะนี้แล้ว ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดี อย่างไรก็ตาม ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดในเรื่องเงื่อนไข หรือโอกาสที่จะมีการเปิดโต๊ะเจรจากันหรือไม่ เนื่องจากอยู่ในขั้นตอนของการทำงาน

นาย สมชาย ระบุว่า บางเรื่องต้องพูดคุยกันยาวๆ ขอย้ำว่าเป็นคนไทยด้วยกัน พร้อมที่จะพูดคุยกับทุกคน โดยไม่ได้ตั้งหน้าตั้งตาว่าใครจะไปโกรธหรือเกลียดกัน และต้องทำใจว่า คนที่มีความคิดแตกต่างกันก็สามารถพูดคุยกันได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (19 กันยายน) นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปตรวจท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของรัฐบาลชั่วคราว หลังจากกลุ่มพันธมิตรฯ ปักหลักชุมนุมในทำเนียบรัฐบาล

ด้าน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยอมรับว่า แกน นำพันธมิตรฯ มีโอกาสพูดคุยทางโทรศัพท์กับตัวแทนรัฐบาล เพื่อยุติปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะเพิ่งจะพูดจากัน แต่ไม่เคยมีเงื่อนไขในการเจรจา พร้อมปฏิเสธว่า การเจรจาดังกล่าวไม่ใช่การหาทางลงให้กับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ

ทั้ง นี้ พล.ต.จำลอง เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แสดงความจริงใจต่อการบริหารประเทศด้วยความยุติธรรม เป็น ไปตามที่แถลงไว้ภายหลังได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ด้วยการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดีภายในประเทศ รวมทั้งยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพันธมิตรฯ จะมีการจัดสัมนาย่อยเพื่อระดมความคิดเห็น เกี่ยวกับการเมืองใหม่ในวันอาทิตย์ ที่ 21 กันยายนนี้ โดยนายพิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯ ระบุว่า หากต้อง มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนก็จะเสนอให้มีการแก้ไขแนวทางการเข้าสู่อำนาจของนักการเมือง โดยให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ไม่ใช่จะมีการแก้เฉพาะส่วนของนักการเมืองหรือพรรคการเมืองที่กระทำความผิด ให้สามารถพ้นผิด เหมือนกับที่รัฐบาลชุดนายสมัคร สุนทรเวช ที่พยายามดำเนินการ

ขณะ ที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า ในวันจันทร์นี้ (22 ก.ย.) กลุ่มพันธมิตรฯ จะเปิดเผยตุ๊กตาของการเมืองใหม่เป็นครั้งแรก จะได้รู้ว่ามีขั้นตอนอย่างไร มีสภาอย่างไร มีการเลือกตั้งอย่างไร หรือมี ส.ว.กี่คน ส.ส.กี่คน ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยไม่เป็นไร แต่ถือว่าได้จุดประกายความคิดไปแล้ว



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก ไทยรัฐออนไลน์
เขียนโดย น.ส.พิมลกร แปงฟู ID:5131601432 สำนักวิชานิติศาสตร์

วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551


นายกฯใหม่ชวนประชาชนเป็นหุ้นส่วนประเทศ ร่วมแก้ปัญหาชาติ
จ.นนทบุรี 18 ก.ย.- "สมชาย" นายกฯ คนที่ 26 ยันบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดมั่นหลักกระบวนการยุติธรรม ระบุความขัดแย้งทางความคิดเกิดขึ้นได้ และสามารถแก้ไขได้ด้วยความปรองดอง เชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมเป็นหุ้นส่วนประเทศ ฝ่าฟันปัญหาแก้วิกฤติชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.10 น. วันนี้ (18 ก.ย.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่บ้านพักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ในหมู่บ้านเบเวอรี่ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อตรวจความเรียบร้อยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัย เนื่องจากมีการเตรียมพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนได้ทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงบ่าย เพื่อร่วมแสดงความยินดีและเตรียมเข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ยังมีรักษาการรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากกระทรวงต่างๆ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ตัวแทนภาคเอกชน นักธุรกิจ ทยอยเดินทางมาร่วมงานดังกล่าวด้วย โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศได้มาปักหลักรายงานข่าวเป็นจำนวนหลายร้อยคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จภารกิจต่าง ๆ ของวันนี้แล้ว นายสมชาย ได้เดินทางกลับเข้าบ้านพัก เวลา 16.30 น. ท่ามกลางสื่อมวลชนที่รุมล้อมถ่ายภาพ โดยผู้สื่อข่าวถามว่า ตื่นเต้นหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ตื่นเต้นแล้ว เมื่อถามว่า เหนื่อยหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ถึงจะเหนื่อยแต่ก็เหนื่อยอย่างมีความสุข มีแต่ความปลื้มปิติยินดี เพราะไม่มีคนทำให้เกิดความทุกข์
ด้านนายเฉลิม วงศ์สวัสดิ์ พี่ชายคนที่ 2 ของนายสมชาย เปิดเผยถึงความรู้สึกที่น้องชายได้มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ผ่านมานายสมชาย ไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมายเป็นพิเศษ แต่เป็นคนมีความจำดี และได้ทุนเรียนฟรีมาตั้งแต่ชั้นประถามศึกษาปีที่ 4 และพ่อก็อยากให้ลูกเป็นผู้พิพากษา เมื่อมาถึงวันนี้จึงเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว เพราะเป็น 1 ใน 63 กว่าล้านคนที่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้
จากนั้น เวลาประมาณ 18.54 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง และหลังจากที่นายสมชาย รับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้ว ได้กล่าวแสดงความรู้สึก ว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นหาที่สุดมิได้ เป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัวสูงสุด จะขอเทิดทูนไว้เหนือชีวิตด้วยความจงรักภักดีตลอดไป ขอยืนยันต่อประชาชนที่เคารพทุกคนว่าจะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ทุ่มเท เสียสละ ด้วยวิริยะ อุตสาหะ มีคุณธรรม ยึดมั่นในหลักกฎหมาย ยึดมั่นในหลักกระบวนการยุติธรรม เพื่อความเป็นธรรม เรียบร้อยในบ้านเมือง ขณะนี้ ในประเทศเรามีปัญหาที่ต้องแก้ไข คงเป็นที่ทราบว่า บางครั้งเรามีความขัดแย้งทางความคิด ความขัดแย้งเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ แต่เราต้องมองว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะทำไงจึงจะนำพาไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ และความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมืองเราต่อไป
"ผมคิดว่าสิ่งนี้ คงต้องคิดกันอย่างรอบคอบและมีเหตุผล ผมประสงค์ให้ประชาชนชาวไทยของเราได้กลับมาร่วมกันคิดว่าความเป็นพี่น้องของเรานั้น ต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง ความเป็นชาติ ความเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ความเจริญก้าวหน้าของพี่น้องประชาชนร่วมกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เราน่าจะหันหน้าเข้ามาสู่ความปรองดองอะลุ้มอล่วยให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่ถือโทษโกรธกัน และต้องมีความเมตตาอารีเอื้ออาทรแก่กัน ผมคิดว่าสิ่งนี้ย่อมมีอยู่ในหัวใจของเราทุกคน ถ้าเรามีวิธีคิดที่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม ผมคิดว่า หากเรายึดหลักนี้แล้ว ประเทศเราจะกลับมาสู่ความร่มเย็นเป็นสุข ภายใต้พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา จะทำให้เราได้ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้วัฒนาถาวรต่อไป" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้เรามีปัญหาอื่นที่ต้องร่วมกันแก้ไขอีกมากมาย ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน ซึ่งรัฐบาลของตนที่จะเกิดขึ้นสมบูรณ์ในเร็ววันนี้จะคำนึงถึงประโยชน์สุข ความอยู่ดีกินดีของประชาชน เป้าหมายสุงสุดคือการร่วมกันนำพาประชาชนของเรา ประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและวัฒนาถาวร เรามีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าจากหลายด้าน ทั้งเรื่องเงินทุนไหลเข้าน้อย ปัญหาที่บริษัทต่างชาติที่มีเงินทุนจำนวนมากประสบความล้มเหลวในการบริหาร กระทบกระเทือนภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทย หากเราไม่ช่วยกันแก้ไขแล้ว ใครจะมาช่วยเราแก้ไข คนไทยเท่านั้นที่ต้องหันหน้าเข้าหากันและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
"ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนเป็นหุ้นส่วนของประเทศ รัฐบาลมีหน้าที่บริหารให้เกิดพลังและผลักดันประเทศชาติให้เดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม แต่ถ้าประชาชนในชาติไม่รักสามัคคีกัน ไม่ร่วมกันผลักดันแล้ว คงจะสำเร็จได้ยาก หวังว่าประชาชนทั้งหลายคงร่วมมือกัน ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่จะมีโอกาสเข้ามาร่วมกันสร้างความรักสามัคคี ร่วมกันเสริมสร้างภาวะเศรษฐกิจที่ดีให้แก่บ้านเมืองของเรา ขอขอบคุณสื่อมวลชน เพื่อนข้าราชการที่จะนำความประสงค์ของประชาชนไปปฏิบัติให้เป็นความจริง ถ้าทุกฝ่าย ทุกคนร่วมมือกันแล้ว มั่นใจว่าความประสงค์ของเราทุกคนจะประสบความาสำเร็จพร้อมกัน นำพาประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในที่สุด" นายสมชาย กล่าว
ที่มา: www.msn.co.th
โดย น.ส. ธัญญารัตน์ ฟูเขียว ID.5131601344 Sec.02 นิติศาสตร์

6 พรรคโหวต"สมชาย"ขึ้นวอ พันธมิตรฯ ยึดทำเนียบฯ ไล่ต่อ

6 พรรคร่วมฯ แถลงข่าวหนุน"สมชาย" เป็นนายกฯ ในการโหวตวันนี้ หลังเคลียร์ "กลุ่มเพื่อนเนวิน" ราบคาบ ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีบรรลุเป้า ขณะที่"สมชาย"ยันพร้อมเจรจาพันธมิตรฯ ยุติความขัดแย้ง ส่วนคดี"แม้ว"ปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม ด้านปชป.เตือนรัฐบาลใหม่อย่าท้าทายประชาชน ลั่นเดินหน้าตรวจสอบเต็มที่ "ชลิต" หนุนประชาภิวัฒน์ ห่วงปัญหาสายสัมพันธ์ "สมชาย-แม้ว" ด้านพันธมิตรฯไม่สน"สมชาย"นั่งนายกฯ ชี้เป็นนอมินีชัดเจนกว่า"สมัคร" เพราะเป็นน้องเขยของผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดิน ยันชุมนุมต่อต้านรัฐบาลนอมินีต่อไป "จำลอง" ย้ำ 9 แกนนำพันธมิตรฯพร้อมให้จับกุมแต่ตำรวจต้องมาจับในทำเนียบฯ

หลังจาก 73 ส.ส.พรรคพลังประชาชน ในนาม"กลุ่มเพื่อนเนวิน" ได้ออกมาแสดงจุดยืนคัดค้านมติกรรมการบริหารพรรค ที่เสนอชื่อ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ในการโหวตของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ จนทำให้พ.ต.ท.กานต์ เทียนแก้ว รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ต้องออกมาขู่ว่า หากไม่สามารถตกลงกันได้ก็อาจจะต้องยุบสภา ทำให้กลุ่มเพื่อนเนวิน ต้องประชุมหารือกันตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (16 ก.ย.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมกลุ่มเพื่อนเนวินนั้น นายสมชาย ได้เข้าไปร่วมประชุมด้วย เพื่อชี้แจงข้อข้องใจต่างๆ ของสมาชิก ซึ่งในที่สุดก็สามารถตกลงกันได้ โดยสมาชิกของกลุ่มยอมทำตามมติกรรมการบริหารพรรค ในการเสนอชื่อนายสมชาย เป็นนายกรัฐมนตรี

ต่อมาในช่วงบ่าย จึงได้มีการประชุมพรรคพลังประชาชน โดยมีวาระพิเศษ เพื่อยืนยันเป็นมติพรรค ในการเสนอชื่อนายสมชาย เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง โดยรท.กุเทพ ใสกระจ่างโฆษกพรรคพลังประชาชน และนายศุภชัย โพธิ์สุ รองโฆษกพรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าว ผลการประชุมเมื่อเวลา 15.00น. โดย รท.กุเทพ กล่าวว่า จากการที่พรรคได้เปิดโอกาสในการรับฟังความคิดเห็นของ ส.ส. ที่เป็นตัวแทนกลุ่มเพื่อนเนวิน ประกอบกันคณะกรรมการบริหาร ได้ชี้แจงเหตุผลในการเสนอชื่อ นายสมชาย ก็ทำให้เกิดความเข้าใจตรงกันแล้ว จึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ เสนอชื่อนายสมชาย เป็นนายกฯ คนที่ 26 ตามมติเดิมของกรรมการบริหารพรรค

ขณะที่นายศุภชัย กล่าวว่า ในการลงมติวันนี้ ทางกลุ่มเพื่อนเนวิน ยืนยันว่า จะปฎิบัติตามมติพรรคอย่างเคร่งครัด

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมกลุ่มเพื่อนเนวิน จึงเปลี่ยนใจง่ายดายนัก ทั้งๆที่ เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมายังยืนกรานว่า ไม่เอานายสมชายอยู่เลย ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ในที่ประชุมพรรคได้มีการ ชี้แจงเหตุผล ทำความเข้าใจกัน ตามกระบวนการตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนที่มีข่าวว่า กลุ่มเพื่อนเนวิน ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีจาก 4 ตำแหน่งเป็น 6 ตำแหน่ง นั้น ไม่มีแน่นอน ยืนยันว่าทางกลุ่มไม่เคยยื่นเงื่อนไขต่อรองตำแหน่งใดๆ เรายึดหลักผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ


ลั่นชุมนุมยืดเยื้อไล่นอมินีคนใหม่
วานนี้ (16 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 19.10 น. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ในวันนี้ (17 ก.ย.) ว่า คงมีความชัดเจนแล้วว่า นายกฯ คนใหม่คงจะเป็นนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ และเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ว่ากลุ่มของเพื่อนนายเนวินคงจะสมประโยชน์ในการจัดสรรโควตาทางการเมือง รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาล ที่ได้ร่วมกันฉีกสัตยาบัน 5 ข้อ ที่เคยให้ไว้กับสังคมในการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถือเป็นการตบหน้าประชาชนอย่างแรง

แม้พันธมิตรฯ จะพยามยามชี้ทางออกให้แก่พรรคร่วม ไม่ว่าจะเป็นการเสนอรัฐบาลแห่งชาติ การเมืองใหม่ รัฐบาลประชาภิวัฒน์ แต่รัฐบาลก็ปฏิเสธและไม่เห็นความสำคัญ เชื่อว่าในวันนี้แม้จะมีนายกฯ คนใหม่ สภาก็ไม่สามารถหาทางออกให้แก่บ้านเมืองได้อย่างแท้จริง แต่จะยิ่งตอกย้ำความเป็นนอมินี ให้ชัดเจนมากขึ้นเมื่อเทียบกับนายสมัคร สุนทรเวช เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่านายสมชาย มีความใกล้ชิดขนาดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งการได้ ฉะนั้น ความตึงเครียดทางการเมืองก็ยังอยู่ต่อไปอีกนานพอสมควร ซึ่งเป็นเหตุผลที่พันธมิตรฯ จะยืนยันที่จะชุมนุมยึดเยื้อระยะยาว เพราะจุดยืนของเราคือ การต่อต้านรัฐบาลนอมินี

"เราไม่สนใจว่าคุณสมชาย จะมีนโยบายอะไร แต่ผมอยากจะถามนายสมชาย ว่าที่นายกฯคนใหม่ว่าถ้าหากเป็นนายกฯแล้วจะมีแนวทางนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ กลับสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างไร เพราะคุณทักษิณเป็นพี่เขยว่าที่นายกฯ ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เตรียมอ่านคำพิพากษาวันเดียวกับน้องเขยของผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดิน ได้รับเลือกเป็นนายกฯคงเป็นเรื่องบังเอิญที่ทำให้ประชาคมโลกสนใจ แนวทางของนายกฯผู้เป็นน้องเขย ในฐานะที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายหนีอาญาแผ่นดิน ที่เป็นคำถามสำคัญที่คุณสมชาย จะต้องอธิบายให้ได้ โดยเฉพาะข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต่อกระบวนการยุติธรรมว่ามีการแทรกแซงจากอำนาจข้างนอก ซึ่งนายกฯคนใหม่ต้องอธิบาย ซึ่งพันธมิตรฯก็ไม่ได้ตั้งความหวังกับสภาในวันนี้ เพราะเกมการเมืองยังอยู่ในมือทักษิณ ความไม่ลงตัวในพรรคร่วมก็เป็นเพียงละครน้ำเน่า สุดท้ายก็จบลงที่ผลประโยชน์ ข้อเสนอดีๆ ของสังคมก็ไม่มีราคาสำหรับนักการเมืองที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน"นายสุริยะใส กล่าว

ด้าน นายแสงธรรม ชุนชฎาธาร ประธานกลุ่มสาธิตมัฆวานฯ กล่าวว่า กลุ่มสาธิตมัฆวานฯ กลุ่มแนวร่วมนิสิต นักศึกษา เพื่อประชาธิปไตย และกลุ่ม Young PAD ได้ร่วมการจัดงาน Democracy In Town ถนนคนรักชาติ ดนตรี กวี ศิลปะ และการเมือง ในวันเสาร์ที่ 20 -21ก.ย. นี้ ตั้งแต่เวลา 15.00 น.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความคิดเห็นทางประชาธิปไตยของคนรุ่นใหม่ โดยจะมีการจัดกิจกรรมด้านต่างๆมากมาย


ข้อมูลจาก ผู้จัดการ Online โดย ผู้จัดการรายวัน 17 กันยายน 2551 01:06 น

เขียนโดย นางสาวชณัฐดา โยธาวุฒิ ID: 5131601288

สำนักวิชานิติศาสตร์ sec: 02

วันพุธที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551

"ชัย"เข้าเฝ้า"ในหลวง"เย็นวันนี้ ทูลเกล้าฯชื่อ"สมชาย"นายกฯ


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้ประ ธานสภาผู้แทนราษฎร นำรายชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยในเย็นวันนี้ (18ก.ย.)

(18ก. ย.) นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อนำรายชื่อนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ บุคคลที่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรี ขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อม เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย ณ พระราชวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านพักหมู่บ้านเบเวอร์รี่ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีการจัดเตรียมสถานที่เพื่อรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่ง ตั้งแล้ว โดยมีรถถ่ายทอดสดของสถานีโทรทัศน์ทุกช่องจัดเตรียมสถานที่ ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของตำรวจสถานีตำรวจนครบาลบางเขน

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คมชัดลึก
เขียนโดย น.ส.พิมลกร แปงฟู ID:5131601432 สำนักวิชานิติศาสตร์