วันเสาร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2551


เสนาะ หนุน สมชาย นั่งนายกฯ
เมืองทองธานี 13 ก.ย.- “เสนาะ” หนุน “สมชาย” นั่งนายกฯ ชี้มีสายสัมพันธ์ลึกกับ ปชป. พร้อมถอยเป็นฝ่ายค้านหาก 2 พรรคใหญ่จับมือกันได้ ระบุคุย 5 พรรคร่วมตกลงให้ พปช.เลือกคนที่มีปัญหาน้อยที่สุดมาเป็นนายกรัฐมนตรี
นายเสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช กล่าวถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช ประกาศไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาในช่วง 2-3 วัน ประชาชนอาจสับสนที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา ประชาชนเลือกพรรคใหญ่ให้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล ถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว แต่เกิดปัญหาเมื่อมีผู้หวังดีไปต่อต้าน เกิดเป็นลัทธินอกระบบ
"เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมกลับมานอนคิดเมื่อคืนวันที่ 11 กันยายน หลังจากที่พรรคพลังประชาชนมีมติเลือกนายสมัครกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี คิดว่านายสมัครไม่ใช่คนไม่ดี แต่รู้ว่ากลับมาแล้ว จะมีเหตุการณ์ที่รุนแรงและวิกฤติเกิดขึ้นอีก ในที่สุดไม่รู้จะทำอย่างไร จนเที่ยงคืนก็ได้โทรไปปลุกนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย มาพูดคุยด้วยเหตุและผล ซึ่งนายบรรหารก็เคยเป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้ว เพราะเราต้องเอาประเทศชาติบ้านเมืองไว้ก่อน เมื่อเห็นตรงกันก็ได้โทรติดต่อกับทุกพรรคและทุกพรรค ก็เห็นด้วยว่าถ้านายสมัครเข้ามาก็วุ่นวายอีก ทุกคนจึงเห็นด้วยว่าควรเลื่อนการโหวตนายกฯ ออกไปก่อน เพื่อซื้อเวลา" นายเสนาะ กล่าว
นายเสนาะ กล่าวอีกว่า จากนั้นได้ต่อสายถึงพรรคประชาธิปัตย์ ว่าหากจะเลื่อนไม่ให้มีการประชุมสภาฯ ที่ดีที่สุด คือการไม่ให้ครบองค์ประชุม แต่ในที่สุดไม่คาดคิดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะกลายเป็นผู้ที่ตั้งนายสมัครกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพราะพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาประชุมเต็มที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชนส่วนหนึ่งก็เข้ามา ทำท่าว่าจะครบองค์ประชุม แต่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกรัฐมนตรี "เดชะบุญที่องค์ประชุมไม่ครบ เพราะหากครบองค์ประชุมก็เท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์ตั้งนายสมัครกลับคืนมาอีกครั้ง" นายเสนาะ กล่าว
เมื่อถามว่า พรรคพลังประชาชนมีแนวโน้มที่จะเลือก 1 ใน 3 ส. ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี นายเสนาะ กล่าวว่า 3 ส.หรือ 4 ส.ไม่สำคัญเท่ากับเอาคนที่มีปัญหาน้อยที่สุด ตนไม่ได้ยึดติดว่าต้องร่วมรัฐบาลเพราะพรรคประชาราชมีอยู่ 4-5 เสียง และจุดยืนของตนขณะนี้คือ ไม่ต้องการให้ประเทศถอยหลัง เพราะฉะนั้นอยากฝากพรรคพลังประชาชนว่าพยายามคัดคนที่มีปัญหาน้อยที่สุด แม้แต่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่บังเอิญเป็นน้องเขยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
"หากเราเอาบ้านเมืองไว้ ต้องแยกแยะ ส่วนตัวเห็นว่าถ้านายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรี เชื่อว่านายสมชายจะพูดอะไรกับพรรคประชาธิปัตย์ได้ เพราะแท้จริงแล้วนายสมชายเป็นคนใต้ แทบจะเป็นลูกหลานของพรรคประชาธิปัตย์ร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมได้ก็เพราะนายสุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์เป็นคนตั้ง และเป็นลูกศิษย์ของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ในสมัยก่อน แต่บังเอิญว่ามันเกิดวิกฤติ ก็ต้องแยกแยะ หากดึงพรรคประชาธิปัตย์มาร่วมรัฐบาลหรือดึง 2 พรรคใหญ่เอานายสมชายมาเป็นนายกฯ บริหารบ้านเมือง เพราะจะให้เป็นรัฐบาลแห่งชาติมันคงยาก หากทั้งสองพรรคใหญ่จับมือกันให้พรรคประชาราชไปเป็นฝ่ายค้านก็ยอม ตอนนี้เราต้องเอาบ้านเมืองไว้ อย่ามาถืออะไรกัน ถ้านายสมชายเป็นนายกฯ เป็นเรื่องที่ดี เพราะมีอุทาหรณ์ให้เห็นว่าอะไรที่ไม่ดี ถึงแม้ว่าจะเป็นเขยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็รู้อยู่ว่าอะไรที่เป็นปัญหาก็จะได้ไม่ทำ ถ้าทำพวกเราก็ไม่ยอม สื่อก็ไม่ยอม ผมพูดตั้งแต่แรกแล้วว่านายสมชายเหมาะสม แต่ต้องแยกแยะออก" นายเสนาะ กล่าว
นายเสนาะ กล่าวอีกว่า การหารือของแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล 5 พรรคที่บ้านนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ทั้งหมดเห็นพ้องต้องการว่า ต้องการให้พรรคพลังประชาชนเสนอคนที่มีความขัดแย้งน้อยที่สุด และเราพร้อมยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ต่อไป
"เราไม่ได้ออกมาบอกอย่างเป็นทางการว่าจะให้ใครเป็นนายกฯ แต่ใครก็ได้ที่ออกมาเป็นคนกลาง ๆ และเห็นตรงกันว่าไม่ควรไปกดดันพรรคพลังประชาชน อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่นายสมัครปฏิเสธไม่รับตำแหน่งนายกฯ นั้น ผมยังไม่ได้โทรศัพท์ไปหานายสมัคร เอาไว้มีโอกาส หากจะให้ผมไปกราบท่าน ก็จะทำ" นายเสนาะ กล่าว
นายเสนาะ กล่าวถึงการยกเลิก พ.ร.ก.การบริหาราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินว่า เพื่อให้บ้านเมืองเป็นปกติ ซึ่งฝ่ายกองทัพและผู้ใหญ่ในบ้านเมืองคิดว่าขณะนี้ประเทศอยู่เหนือเหตุผลทุกอย่าง จึงขอให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อให้ภาพพจน์ของประเทศกลับคืนมาเป็นปกติ และต้องการให้กองทัพไปคุยกันในเมื่อเงื่อนไขของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ไม่ให้แตะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราก็ไม่แตะต้องอยู่แล้ว อะไรที่ไม่ดี ให้จับเข่าคุยกัน
ที่มา: www.msn.co.th
โดย ธัญญารัตน์ ฟูเขียว ID.5131601344 Sec.02 นิติศาสตร์

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

น่าจะเอที่เป็นกลาง ไม่มีปัญหา หือมีคดีติดตัวอยู่
เพราะอาจจะได้มีการคัดเลือกนายกใหม่อีก มิเช่นนั้นแล้วการเมืองก็จัวุ่นวาย แล้วยังสงผลต่อประเทศในหลายๆด้าน

นางสาวธันย์ชนก ทรงนาศึก
ID:5131601345 sec.02 สำนักวิชานิติศาสตร์