วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551


นายกฯใหม่ชวนประชาชนเป็นหุ้นส่วนประเทศ ร่วมแก้ปัญหาชาติ
จ.นนทบุรี 18 ก.ย.- "สมชาย" นายกฯ คนที่ 26 ยันบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดมั่นหลักกระบวนการยุติธรรม ระบุความขัดแย้งทางความคิดเกิดขึ้นได้ และสามารถแก้ไขได้ด้วยความปรองดอง เชิญชวนประชาชนทุกคนร่วมเป็นหุ้นส่วนประเทศ ฝ่าฟันปัญหาแก้วิกฤติชาติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.10 น. วันนี้ (18 ก.ย.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางมาที่บ้านพักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ว่าที่นายกรัฐมนตรี ในหมู่บ้านเบเวอรี่ฮิลล์ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อตรวจความเรียบร้อยในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัย เนื่องจากมีการเตรียมพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายสมชายเป็นนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนได้ทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงบ่าย เพื่อร่วมแสดงความยินดีและเตรียมเข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ยังมีรักษาการรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่จากกระทรวงต่างๆ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล รวมทั้งส.ส.กลุ่มเพื่อนเนวิน ตัวแทนภาคเอกชน นักธุรกิจ ทยอยเดินทางมาร่วมงานดังกล่าวด้วย โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศได้มาปักหลักรายงานข่าวเป็นจำนวนหลายร้อยคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จภารกิจต่าง ๆ ของวันนี้แล้ว นายสมชาย ได้เดินทางกลับเข้าบ้านพัก เวลา 16.30 น. ท่ามกลางสื่อมวลชนที่รุมล้อมถ่ายภาพ โดยผู้สื่อข่าวถามว่า ตื่นเต้นหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ไม่ตื่นเต้นแล้ว เมื่อถามว่า เหนื่อยหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ถึงจะเหนื่อยแต่ก็เหนื่อยอย่างมีความสุข มีแต่ความปลื้มปิติยินดี เพราะไม่มีคนทำให้เกิดความทุกข์
ด้านนายเฉลิม วงศ์สวัสดิ์ พี่ชายคนที่ 2 ของนายสมชาย เปิดเผยถึงความรู้สึกที่น้องชายได้มีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า ที่ผ่านมานายสมชาย ไม่ได้ตั้งใจเรียนอะไรมากมายเป็นพิเศษ แต่เป็นคนมีความจำดี และได้ทุนเรียนฟรีมาตั้งแต่ชั้นประถามศึกษาปีที่ 4 และพ่อก็อยากให้ลูกเป็นผู้พิพากษา เมื่อมาถึงวันนี้จึงเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัว เพราะเป็น 1 ใน 63 กว่าล้านคนที่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้
จากนั้น เวลาประมาณ 18.54 น. นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้อัญเชิญพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึง และหลังจากที่นายสมชาย รับสนองพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งแล้ว ได้กล่าวแสดงความรู้สึก ว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นพ้นหาที่สุดมิได้ เป็นสิริมงคลแก่ตนและครอบครัวสูงสุด จะขอเทิดทูนไว้เหนือชีวิตด้วยความจงรักภักดีตลอดไป ขอยืนยันต่อประชาชนที่เคารพทุกคนว่าจะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ทุ่มเท เสียสละ ด้วยวิริยะ อุตสาหะ มีคุณธรรม ยึดมั่นในหลักกฎหมาย ยึดมั่นในหลักกระบวนการยุติธรรม เพื่อความเป็นธรรม เรียบร้อยในบ้านเมือง ขณะนี้ ในประเทศเรามีปัญหาที่ต้องแก้ไข คงเป็นที่ทราบว่า บางครั้งเรามีความขัดแย้งทางความคิด ความขัดแย้งเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ แต่เราต้องมองว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะทำไงจึงจะนำพาไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ และความเป็นปึกแผ่นของบ้านเมืองเราต่อไป
"ผมคิดว่าสิ่งนี้ คงต้องคิดกันอย่างรอบคอบและมีเหตุผล ผมประสงค์ให้ประชาชนชาวไทยของเราได้กลับมาร่วมกันคิดว่าความเป็นพี่น้องของเรานั้น ต้องมีความสำคัญอย่างยิ่ง ความเป็นชาติ ความเป็นปึกแผ่นแน่นหนา ความเจริญก้าวหน้าของพี่น้องประชาชนร่วมกันนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เราน่าจะหันหน้าเข้ามาสู่ความปรองดองอะลุ้มอล่วยให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่ถือโทษโกรธกัน และต้องมีความเมตตาอารีเอื้ออาทรแก่กัน ผมคิดว่าสิ่งนี้ย่อมมีอยู่ในหัวใจของเราทุกคน ถ้าเรามีวิธีคิดที่ถูกต้องตามครรลองคลองธรรม ผมคิดว่า หากเรายึดหลักนี้แล้ว ประเทศเราจะกลับมาสู่ความร่มเย็นเป็นสุข ภายใต้พระบารมีแห่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเรา จะทำให้เราได้ร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้วัฒนาถาวรต่อไป" นายสมชาย กล่าว
นายสมชาย กล่าวว่า ขณะนี้เรามีปัญหาอื่นที่ต้องร่วมกันแก้ไขอีกมากมาย ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน ซึ่งรัฐบาลของตนที่จะเกิดขึ้นสมบูรณ์ในเร็ววันนี้จะคำนึงถึงประโยชน์สุข ความอยู่ดีกินดีของประชาชน เป้าหมายสุงสุดคือการร่วมกันนำพาประชาชนของเรา ประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและวัฒนาถาวร เรามีปัญหาเศรษฐกิจรุมเร้าจากหลายด้าน ทั้งเรื่องเงินทุนไหลเข้าน้อย ปัญหาที่บริษัทต่างชาติที่มีเงินทุนจำนวนมากประสบความล้มเหลวในการบริหาร กระทบกระเทือนภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทย หากเราไม่ช่วยกันแก้ไขแล้ว ใครจะมาช่วยเราแก้ไข คนไทยเท่านั้นที่ต้องหันหน้าเข้าหากันและร่วมมือกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
"ขอเชิญชวนประชาชนทุกคนเป็นหุ้นส่วนของประเทศ รัฐบาลมีหน้าที่บริหารให้เกิดพลังและผลักดันประเทศชาติให้เดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม แต่ถ้าประชาชนในชาติไม่รักสามัคคีกัน ไม่ร่วมกันผลักดันแล้ว คงจะสำเร็จได้ยาก หวังว่าประชาชนทั้งหลายคงร่วมมือกัน ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่จะมีโอกาสเข้ามาร่วมกันสร้างความรักสามัคคี ร่วมกันเสริมสร้างภาวะเศรษฐกิจที่ดีให้แก่บ้านเมืองของเรา ขอขอบคุณสื่อมวลชน เพื่อนข้าราชการที่จะนำความประสงค์ของประชาชนไปปฏิบัติให้เป็นความจริง ถ้าทุกฝ่าย ทุกคนร่วมมือกันแล้ว มั่นใจว่าความประสงค์ของเราทุกคนจะประสบความาสำเร็จพร้อมกัน นำพาประเทศชาติของเราไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองในที่สุด" นายสมชาย กล่าว
ที่มา: www.msn.co.th
โดย น.ส. ธัญญารัตน์ ฟูเขียว ID.5131601344 Sec.02 นิติศาสตร์

ไม่มีความคิดเห็น: