ทํ า อ ย่ า ง ไ ร จ ะ มี ค ว า ม สุ ข กั บ ข่ า ว ก า ร เ มื อ ง ?
กลวิธีของนักการเมืองไม่ดี เป็นสิ่งน่าเรียนรู้ จะได้เท่าทันเค้า เราจะไม่ถูกหลอกง่ายๆ เมื่อเข้าใจจะร้องอ้อ (รู้ทันนะคิดอะไรอยู่)
นักการเมืองไม่ดีเป็นคนน่าสงสาร ควรเมตตา แต่ไม่ควรสนับสนุนให้เป็นผู้แทนหรือ ส.ส.
ดูหนังดูละครแล้วย้อนดูตัวเรา อันนี้ใช้กับการเมืองก็ใช้ได้เหมือนกัน ดูการเมืองเป็นกระจกสะท้อนตัวเรา สะท้อนความ
โกรธโลภหลงความดีไม่ดี ส่วนใหญ่ที่เราคิดว่านักการเมืองไม่ดีเพราะภาพที่เราเห็นส่วนใหญ่ไม่ดี
ข่าวที่ถูกตีแผ่ เรื่องจริงก็มีข่าวที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำลายนักการเมืองดีก็มี ต้องแยกแยะให้ออกระหว่างความจริงกับความคิดเห็น
คิดว่าข่าวการเมืองเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งเราเสพงานศิลปะเพื่อเข้าถึงจิต
วิญญาณของผู้สร้างผลงาน เราดูข่าวการเมืองก็สามารถเข้าถึงจิตวิญญาณของนักข่าวได้เหมือนกัน
ว่าเขาต้องการถ่ายทอดอะไร นักข่าวคนนั้นรู้สึกอย่างไรเวลาเขียนข่าวคืออ่านข่าวแล้วอ่านใจคนเขียนด้วย
เนื้อข่าวบอกอะไร เขาทำอะไรกัน ? ทำอย่างไร ? เพื่ออะไร ? แล้วที่เค้าทำเช่นนั้นเค้าคิดอย่างไร ?ไม่เข้าใจไม่เป็นไร
แต่ถ้าเข้าใจ “อ้อ” คำนี้เป็น
ปิติ อย่างหนึ่งเมื่อความเข้าใจเกิด
ข่าวดีบ้าง ร้ายบ้าง โลกเราก็เป็นเช่นนี้ ที่แก้ได้ก็แก้ไข แก้ไม่ได้ก็ทำใจยอมรับว่าแก้ไม่ได้
เราไม่ได้เป็นเทพเจ้าที่จะบันดาลทุกสิ่ง ทำเท่าที่มนุษย์ตัวเล็กๆคนหนึ่งทำได้
ทำความดีค่าเวลาก่อนตาย ทำอะไรไว้เป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังรู้ว่า
" เราเคยมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ "
สุดท้าย “ตถตา” เป็นเช่นนั้นเอง : ปล่อยวางได้ใจเป็นสุข( แหล่งอ้างอิง :พระอาจารย์ สุวิริโย วัดท่าหิน จังหวัด ชุมพร )